
สิ่งที่น่าสนใจจากเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ เชลซี ได้ 2-0
เกมระหว่าง เชลซี และ ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก เกมที่สอง ของฤดูกาล 2020-21 จบลงด้วยชัยชนะของทางฝั่งแชมป์เก่าเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และมีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในเกมนี้ โดยบทความนี้จะมองไปยังสิ่งที่น่าสนใจที่เกิดขึ้น
เกมแรกของทั้งสองทีมชนะมาได้เหมือนกันทั้งคู่ เมื่อลิเวอร์พูลเปิดบ้านชนะลีดส์ ยูไนเต็ด 4-3 ส่วนเชลซีบุกไปเอาชนะไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้เยน 3-1 และด้วยการลงทุนยกระดับทีม เมื่อจ่ายเงินไปมากกว่า 200 ล้านปอนด์ คาดว่าจะเป็นเกมที่เปิดเกมรุกเข้าใส่กันเพื่อสร้างความสนุก แต่เป็นแฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เลือกเน้นรับ และสวนกลับเป็นหลัก และไม่ได้วิ่งไล่เพรสซิ่งมาก จนกว่าลูกบอลจะเข้ามาอยู่ในแดนตัวเอง โดยเป็นลิเวอร์พูลที่ขึงเกมเข้าใส่แน่นอนว่าจุดเปลี่ยนคือการเหลือเพียง 10 คนของเจ้าบ้าน เมื่ออันเดรส คริสเตนเซ่น ถูกไล่ออกจากสนาม
แน่นอนว่าสิงห์บลูยังเป็นทีมที่เพิ่งพาความสามารถของนักเตะมากเกินไป และเกมนี้ก็ไปหนักที่ติโม แวร์เนอร์ กองหน้าตัวความหวังของทีม แต่เมื่อต้องเจอกับวันที่ฟาบินโญ่ แม้จะลงเล่นในตำแหน่งกองหลัง แต่ก็องค์ลง ดักเก็บบอลได้หมด แม้ถ้าวัดในเรื่องความเร็วจะเป็นรองอยู่มากก็ตาม และเมื่อทีมอของแลมพาร์ดเหลือ 10 คน ยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อโดนบีบแล้วต้องสาดบอลยาวไปข้างหน้า และก็โดนเก็บบอลได้หมด แม้จะมีโอกาสสวนกลับบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสทำประตูจะแจ้งสักเท่าไหร่
แน่นอนว่าในเรื่องความสามารถของนักเตะ ลิเวอร์พูลหวังได้จากซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ หรือแม้กระทั่งโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ก่อนที่ทีมจะส่งติอาโก้ อัลคันทาร่า ลงเล่นในครึ่งหลัง ซึ่งสร้างมิติในการผ่านบอลให้กับทีมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมีจังหวะผ่านบอลไปข้างหน้า มากกว่าที่จะผ่านบอลไปมาทางด้านข้าง
นอกจากใบแดงของคริสเตนเซ่นที่เปลี่ยนเกมนี้ คือความผิดพลาดของ เกป้า อาร์รีซาบาลาก้า ที่ให้อภัยไม่ได้ กับช่วงเวลาที่ทีมไม่ควรจะเสียประตู หลังจากเริ่มครึ่งหลังได้ไม่กี่นาที กับความผิดพลาดครั้งนี้เป็นเหมือนกับการตัดสินเส้นทางการค้าแข้งกับทีมในกรุงลอนดอน เมื่อแลมพาร์ดคงจะเร่งให้ทีมเซ็นสัญญาเอดูอาร์ด เมนดี้ จากแรนส์มาร่วมทีมแทบจะทันที
ไค ฮาเวิร์ตซ์ ยังเป็นอีกหนึ่งเกมที่โชว์ฟอร์มไม่ออก หลังจากลงสนามเป็นตัวจริงให้กับสิงห์บลูไปแล้ว 2 เกม เมื่อทีมจ่ายเงินก้อนโตไปให้กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ตอนคว้าตัวมาร่วมทีม และก็ต้องเจอกับความผิดหวังไปอีก เมื่อต้องเป็นคนที่ถูกเปลี่ยนตัวออก เพื่อส่งฟิกาโย่ โทโมริ ลงสนามมาแทน ซึ่งเกมนี้เป็นอีกหนึ่งบททดสอบครั้งใหญ่ของทั้งสองทีม ก่อนที่ ลิเวอร์พูล ของเจอจร์เก้น คล็อปป์ จะผ่านไปได้ด้วยดี